ข้อควรรู้ กฎหมายคอมพิวเตอร์
เกี่ยวกับ TMA Group
TMA Group เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรและการให้คำปรึกษาทางธุรกิจในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะให้บริการครบวงจรแก่ทั้งองค์กรและบุคคล รวมถึงการสรรหาบุคลากร การบริหารจัดการทางการเงิน การจัดการภาษี การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ และบริการอื่นๆ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศไทย ยินดีต้อนรับติดต่อเราตลอดเวลา
ข้อควรรู้ กฎหมายคอมพิวเตอร์
ประเทศไทยได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์มาแล้ว 2 ฉบับ โดยฉบับแรกได้ประกาศใช้เมื่อ พ.ศ.2550 และฉบับที่สองได้ประกาศใช้เมื่อ พ.ศ.2560 ซึ่งกฎหมายคอมพิวเตอร์เป็นกฎหมายที่ใช้รักษาความสงบเรียบร้อยบนโลกออนไลน์และใช้เพื่อป้องกัน ควบคุม และปราบปรามการกระทำความผิดที่จะเกิดขึ้นจากการใช้คอมพิวเตอร์ โดยพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มีสาระที่น่าสนใจ ดังนี้
1.การฝากร้าน
การฝากร้านค้าตามเฟซบุ๊ก (Facebook) หรือตามอินสตาแกรม (Instagram) หรือการโพสต์ในเฟซบุ๊กซบุ๊ก (Facebook) ของผู้อื่น เหล่านี้มีความผิดเพราะการฝากร้านถือเป็นสแปม กล่าวคือ เป็นข้อความหรือโฆษณาที่ส่งให้ผู้รับโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งก่อความรำคาญใจให้กับผู้รับ มีโทษปรับไม่เกินสอง แสนบาท ฉะนั้นจึงควรฝากร้านในพื้นที่ที่ให้ฝากเท่านั้น
2. การส่ง SMS โดยไม่ได้รับการยินยอม
การส่งข้อความ SMS เกี่ยวกับโฆษณาหรือการบอกแจ้งข่าวสารต่างๆ ในบางครั้งอาจเป็นสิ่งที่เรา ไม่ได้ต้องการหรือไม่ยินยอมที่จะรับข้อความเหล่านั้น โดยเราสามารถปฏิเสธการรับข้อความเหล่านั้นได้ เพราะว่า ไม่ใช่ความประสงค์ของเราตั้งแต่แรก หากผู้ส่งไม่ปฏิบัติตามหรือมียังมีการส่งข้อความมาอยู่เสมอ ก็จะถือว่าเป็น สแปม ผู้ส่งมีความผิดและมีโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท
3. การส่ง Email ขายของหรือแฝงธุรกิจไปยังผู้อื่น
การส่งอีเมลที่มีการแฝงธุรกิจหรือขายสินค้าก็ถือว่าเป็นการส่งข่าวสารที่ไม่ได้รับการยินยอมจาก ผู้รับ มีความผิดคล้ายกับข้อข้างต้นที่เป็นการส่ง SMS โดยไม่ได้รับการยินยอม ซึ่งการส่งอีเมลในลักษณะนี้ถือว่า เป็นสแปม มีความผิดและมีโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทเช่นกัน
4.การกดไลก์ (Like) ตามเพจหรือโพสต์ต่างๆ
การกดไลก์ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สามารถกระทำได้ เว้นเสียแต่ว่าเป็นการกดไลก์ โพสต์ที่เป็นข้อมูลปลอม ข้อมูลอันเป็นเท็จไม่เป็นความจริงหรือหลอกลวง มีผลทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น ประชาชน หรือความมั่นคงของประเทศ เช่น ข้อมูลที่มีผลกระทบต่อสังคม ความมั่นคงของชาติ และโดยเฉพาะ หากเป็นเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน อาจสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายความผิดมาตรา ๑๑๒ หรือการมีความผิดร่วม ฉะนั้นก่อน กดไลก์ต้องดูให้ดีก่อนไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นว่าเราเห็นด้วยกับโพสต์ที่เข้าข่ายมีความผิด
5. การแชร์โพสต์ (Share) ก็ถือว่าผิดกฎหมาย
เมื่อโพสต์ที่เราแชร์อาจเป็นโพสต์ที่มีความเสี่ยงที่จะสร้างความเดือดร้อนเสียหายต่อบุคคลอื่น หรือกระทบต่อบุคคลที่สาม การที่เราได้ทำการแชร์โพสต์นั้นก็เท่ากับเป็นการเผยแพร่ข่าวสาร อาจเข้าข่ายมี ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะที่กระทบต่อบุคคลที่สาม มีโทษจำคุกไม่เกินสามปีและมีโทษปรับไม่ เกินหกหมื่นบาท
6.หากพบข้อมูลที่ผิดกฎหมายในคอมพิวเตอร์สามารถลบได้และไม่มีความผิด
หากมีข้อมูลที่ผิดกฎหมายและไม่ชอบมาพากลอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา แต่ไม่ใช่สิ่งที่เรา เป็นผู้สร้างหรือกระทำขึ้นมาเอง เราสามารถไปแจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ หากมีการแจ้งและลบข้อมูลออก จากเครื่องคอมพิวเตอร์แล้วก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย เช่น ความเห็นบนเว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึงเฟซบุ๊กที่ให้ แสดงความคิดเห็น หากพบว่ามีการแสดงความเห็นที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมาย เราสามารถแจ้งไปยังผู้ดูแล เว็บไซต์หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อทำการลบได้ทันที เจ้าของระบบก็จะไม่มีความผิด
7. ผู้ดูแลเพจหรือแอดมินเพจอาจมีความผิดหากไม่ตรวจสอบข้อมูล
สำหรับผู้ดูแลเพจหรือแอดมินเพจต่างๆที่เปิดให้มีการแสดงความคิดเห็น หากมีข้อความใดๆ ที่อาจสร้างความเสียหายหรือผิดกฎหมาย ผู้ดูแลเพจหรือแอดมินเพจสามารถลบข้อความเหล่านั้นออกได้ทันที เมื่อทำการลบข้อความเหล่านั้นแล้ว ก็จะถือว่าไม่มีข้อมูลหรือข้อความใดๆ ในพื้นที่ที่ผู้ดูแลหรือแอดมินเพจได้ทำ การดูแล ถือว่าผู้ดูแลเพจหรือแอดมินเพจนั้นๆ ไม่มีความผิด เพราะฉะนั้นผู้ดูแลเพจหรือแอดมินเพจจะต้องคอย สอดส่องลูกเพจของตัวเองให้ดีหากไม่อยากมีความผิดแบบไม่รู้ตัว
8. ไม่โพสต์สิ่งลามก อนาจาร
การเผยแพร่สิ่งลามกอนาจารไปสู่การเผยแพร่ต่อประชาชนหรือบุคคลอื่น ถือว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีและมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท
9. ระมัดระวังการโพสต์เกี่ยวกับเด็ก เยาวชน
หากทำการโพสต์หรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับเด็กหรือเยาวชน ควรปิดบังใบหน้า เอาไว้ด้วย และที่สำคัญ คือ ข้อมูลที่โพสต์จะต้องไม่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย แต่หากเป็นการโพสต์หรือเผยแพร่ข้อมูล ข่าวสารที่เป็นการยกย่อง เชิดชู และให้เกียรติ สามารถโพสต์ภาพที่เผยแพร่ใบหน้าของเด็กหรือเยาวชนได้
10. การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต
เมื่อเกิดกรณีที่มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตต้องเป็นความจริงและไม่ทำให้ เกิดการเสื่อมเสียงชื่อเสียง หรือเกิดการดูหมิ่นและเกลียดชัง เพราะญาติของผู้เสียชีวิตนั้นสามารถฟ้องร้องได้ตาม กฎหมาย หรือแม้แต่การโพสต์ภาพของผู้เสียชีวิต ก็ถือว่าอาจสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
11. การโพสต์ด่าหรือต่อว่าผู้อื่น
การโพสต์ที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย การด่าว่าผู้อื่นโดยที่ไม่มีข้อมูลความจริง การกล่าวหาผู้อื่น รวมไปถึง การตัดต่อรูปภาพและใส่ร้าย ผู้ที่ถูกกระทำดังกล่าวสามารถแจ้งความเพื่อเอาผิดผู้ที่กระทำสิ่งเหล่านั้นได้ และถือว่า มีความผิดทางกฎหมายอาญาด้วย มีโทษจำคุกไม่เกินสามปีและมีโทษปรับไม่เกินสองแสนบาท
12. การละเมิดลิขสิทธิ์
การละเมิดลิขสิทธิ์ผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นทางข้อความ เพลง รูปภาพ หรือวิดีโอ เช่น การเอาเพลง หรือรูปภาพมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
13. การส่งหรือแชร์ภาพของผู้อื่นที่ไม่ได้ทำเชิงพาณิชย์สามารถทำได้
การเผยแพร่ภาพที่ไม่ได้สร้างความเสียหาย แต่เป็นการใช้เพื่อความบันเทิง หรือเพิ่มอรรถรสใน การสนทนาให้สนุกสนานมากขึ้น เช่น การส่งภาพสวัสดีวันจันทร์ สวัสดีวันศุกร์ และไม่ได้ทำในการเชิงพาณิชย์ หรือหารายได้ต่างๆ การเผยแพร่ภาพเหล่านี้สามารถทำได้ ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
ข้อควรรู้…กฎหมายคอมพิวเตอร์ | Law Division KKU
1. สถานีนี้ปฏิบัติตามมาตรฐานในวงการ และทุกบทความที่ถูกคัดลอกจะถูกทำเครื่องหมายชัดเจนว่าเป็นของผู้เขียนและแหล่งที่มา; 2. บทความต้นฉบับของสถานีนี้ โปรดระบุผู้เขียนและแหล่งที่มาเมื่อมีการคัดลอก เราจะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่ไม่เคารพสิทธิของผู้เขียน; 3. การส่งบทความของผู้เขียนอาจถูกดำเนินการแก้ไขหรือเพิ่มเติมโดยบรรณาธิการของเราในบางกรณีที่เหมาะสม
