เปลี่ยนงานบ่อย: ทางลัดสู่ความสำเร็จ หรือกับดักระยะยาว?
เกี่ยวกับ TMA Group
TMA Group เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสรรหาบุคลากรและการให้คำปรึกษาทางธุรกิจในประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะให้บริการครบวงจรแก่ทั้งองค์กรและบุคคล รวมถึงการสรรหาบุคลากร การบริหารจัดการทางการเงิน การจัดการภาษี การให้คำปรึกษาด้านกฎหมาย การบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ และบริการอื่นๆ หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนในประเทศไทย ยินดีต้อนรับติดต่อเราตลอดเวลา
ในยุคที่โลกของการทำงานหมุนเร็วและโอกาสใหม่ ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลาการ“เปลี่ยนงานบ่อย”กลายเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ บางคนมองว่านี่คือหนทางสู่ความก้าวหน้าและรายได้ที่ดีขึ้น ขณะที่บางคนกลับมองว่านี่คือสัญญาณของความไม่มั่นคงหรือขาดความอดทน แล้วความจริงคืออะไรกันแน่?
ข้อดีของการเปลี่ยนงานบ่อย (ในกรณีที่มีเป้าหมาย)
1. รายได้เพิ่มเร็ว
การเปลี่ยนงานมักมาพร้อมกับเงินเดือนที่สูงขึ้น ยิ่งคุณมีทักษะเฉพาะทางหรืออยู่ในสายงานที่เป็นที่ต้องการ เช่น IT, Marketing, หรือ Data Analytics คุณจะมีโอกาสต่อรองเงินเดือนได้มากกว่าการอยู่กับที่เดิม ซึ่งปกติเพิ่มแค่ปีละ 3–5% เท่านั้น
2. ได้ประสบการณ์ที่หลากหลาย
การได้ทำงานในองค์กรหลายแบบ ทำให้คุณเข้าใจการทำงานหลายมุม ทั้งระบบ วิธีคิด การบริหาร รวมถึงเจอปัญหาที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา การสื่อสาร และความสามารถในการปรับตัว
3. เติบโตในหน้าที่การงานได้เร็วกว่า
บางครั้งการอยู่ที่เดิม ตำแหน่งอาจไม่ขยับ เพราะโครงสร้างองค์กรจำกัด แต่หากคุณเปลี่ยนไปยังที่ที่มีโอกาสมากกว่า เช่น จากพนักงานอาวุโสไปเป็นหัวหน้า หรือได้ดูแลทีม คุณจะพัฒนาเร็วกว่า
4. ช่วยค้นหาตัวเอง
โดยเฉพาะในช่วงอายุ 20–30 การเปลี่ยนงานเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณรู้ว่าตัวเองชอบงานประเภทไหน หรือเหมาะกับวัฒนธรรมองค์กรแบบใด บางคนไม่เคยรู้ว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานประจำ จนได้ลองออกไปทำฟรีแลนซ์
5. ไม่ต้องทนอยู่กับสภาพแวดล้อมที่ไม่ดี
ถ้าที่ทำงานเต็มไปด้วยความกดดัน วัฒนธรรมแย่ หรือเจ้านายไม่แฟร์ การเปลี่ยนงานเป็นการถอยเพื่อปกป้องสุขภาพจิต และเปิดโอกาสให้ได้เจอสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น
ข้อเสียของการเปลี่ยนงานบ่อย (ถ้าทำโดยไม่มีเป้าหมาย)
1. เสียภาพลักษณ์ในสายตาผู้ว่าจ้าง
HR หรือผู้บริหารมักมองว่าคนที่เปลี่ยนงานบ่อย อาจไม่มีความอดทน ไม่มีความมั่นคง หรือขาดวุฒิภาวะในการทำงาน หากเปลี่ยนงานทุก 6 เดือน - 1 ปี โดยไม่มีเหตุผลชัดเจน อาจทำให้ถูกปฏิเสธตั้งแต่รอบเรซูเม่
2. ไม่มีโอกาสพัฒนาทักษะลึก ๆ
การอยู่กับที่ใดที่หนึ่งนานพอ จะได้ลงลึกในงาน รับผิดชอบโปรเจกต์ใหญ่ ๆ หรือบริหารงานแบบระยะยาว ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับตำแหน่งที่สูงขึ้น การเปลี่ยนงานเร็วเกินไปอาจทำให้คุณสะสมประสบการณ์ได้เพียง "ผิวเผิน"
3. ต้องเริ่มต้นใหม่ซ้ำ ๆ
ทุกครั้งที่เข้าบริษัทใหม่ คุณต้องเรียนรู้ระบบใหม่ ปรับตัวเข้ากับทีม และสร้างความน่าเชื่อถือใหม่ ซึ่งต้องใช้พลังงาน และอาจทำให้รู้สึกเหนื่อยโดยไม่จำเป็น
4. พลาดสิทธิประโยชน์บางอย่าง
หลายองค์กรมีสิทธิประโยชน์ตามอายุงาน เช่น โบนัสประจำปี วันลาพักร้อนเพิ่มเติม หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หากเปลี่ยนงานบ่อย คุณอาจไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้อย่างเต็มที่
5. เสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี
ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือมีการปลดคน คุณอาจเสียเปรียบ เพราะไม่มีประวัติทำงานยาวกับบริษัทไหนเลย ซึ่งบางครั้งธนาคารหรือผู้ให้กู้ก็ใช้เรื่องนี้ในการพิจารณาให้สินเชื่อด้วย เช่น ขอสินเชื่อบ้าน
การเปลี่ยนงานบ่อยไม่ใช่เรื่องผิด
แต่จะ “ดี” หรือ “ไม่ดี” ขึ้นอยู่กับว่า…
คุณมี เป้าหมาย หรือไม่
ทุกการเปลี่ยนพาคุณ ไปข้างหน้า หรือเปล่า
คุณได้ เรียนรู้และเติบโต จากมันไหม
หากเปลี่ยนเพื่อวิ่งหนีปัญหา เปลี่ยนเพราะเบื่อ โดยไม่มีแผนระยะยาว แบบนี้อาจสะสมเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต
ควรพิจารณาให้ดีก่อนการตัดสินใจ
1. สถานีนี้ปฏิบัติตามมาตรฐานในวงการ และทุกบทความที่ถูกคัดลอกจะถูกทำเครื่องหมายชัดเจนว่าเป็นของผู้เขียนและแหล่งที่มา; 2. บทความต้นฉบับของสถานีนี้ โปรดระบุผู้เขียนและแหล่งที่มาเมื่อมีการคัดลอก เราจะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ที่ไม่เคารพสิทธิของผู้เขียน; 3. การส่งบทความของผู้เขียนอาจถูกดำเนินการแก้ไขหรือเพิ่มเติมโดยบรรณาธิการของเราในบางกรณีที่เหมาะสม
